บทความ

กำลังแสดงโพสต์ที่มีป้ายกำกับ ปริจเฉทที่ ๒

สังคหนัย

รูปภาพ
สังคหะ ตามบาลีไวยากรณ์เป็นนามกิริยา แปลว่า การสงเคราะห์หรือการรวบรวม ซึ่งโดยนัยนี้หมายความ แสดงการที่ จิต แต่ละดวงได้รวบรวมเจตสิกเข้ามาประกอบไว้ได้เท่าใด และได้แก่เจตสิกอะไรบ้าง หรือมีเจตสิกจำนวนเท่าใดอะไรบ้างที่นำมาสงเคราะห์ลงในจิตได้แต่ละดวง ยกจิตเป็นประธานสามารถประกอบกับเจตสิกได้จำนวนเท่าใด คาถาสังคหะ ฉตฺตีสานุตฺตเร ธมฺมา ปญฺจตฺตึส มหคฺคเต อฏฺฐตฺตึสาปิ ลพฺภนฺติ  กามาวจรโสภเณ ฯ สตฺตวีสตฺยปุญญมฺหิ  ทฺวาทสาเหตุเกติ จ ยถาสมฺภวโยเคน  ปัญฺจธา ตตฺถ สงฺคโห ฯ แปลความว่า โลกุตรจิต มีเจตสิกประกอบได้ ๓๖ ดวง มหัคคตจิต มีเจตสิกประกอบได้ ๓๕ ดวง กามาวจรโสภณจิต มีเจตสิกประกอบได้ ๓๘ ดวง อกุศลจิต มีเจตสิกประกอบได้ ๒๗ ดวง อเหตุกจิต มีเจตสิกประกอบได้ ๑๒ ดวง นี้คือการนับจำนวนเจตสิกที่สงเคราะห์ลงในจิตโดยสังคหะได้ ๕ นัยคือ ๑. อนุตตรสังคหนัย อนุตตรสังคหนัย คือนัยที่แสดงการสงเคราะห์เจตสิกลงในโลกุตตรจิตหรือที่เรียกว่า สังคหนัยแห่งโลกุตตรจิต ๘ หรือ ๔๐ คาถาสังคหะ ฉตฺตีส ปญฺจตึสาถ  จตุตตึส ยถากฺกมํ เตตฺตึส ทฺวยมิจฺเจว๋  ปญฺจธานุตฺตเร ฐิตา ฯ แปลความว่า โลกุตตรจิต ๔๐ ดวงนั้น มีสังคหะ ...

อนิยตโยคี และ นิยตโยคีเจตสิก

รูปภาพ
อนิยตโยคีเจตสิก คือ เจตสิกที่ประกอบกับจิตได้เป็นบางครั้งบางคราวไม่แน่นอน นิยตโยคีเจตสิก คือ เจตสิกที่ประกอบกับจิตได้แน่นอน คาถาสังคหะ อิสฺสามจฺเฉรกุกฺกุจฺจ       วิรติกรุณาทโย นานา กทาจิ มาโน จ         ถีนมิทฺธํ ตถา สห ฯ แปลความว่า อิสสา มัจฉริยะ กุกกุจจะ วิรตีเจตสิก ๓ กับกรุณา มุทิตา รวมเจตสิก ๘ ดวงนี้ ประกอบกับจิตได้เป็นบางครั้งบางคราว และ ไม่ประกอบพร้อมกัน เรียกเจตสิกทั้ง ๘ นี้ว่า “นานากทาจิเจตสิก” มานเจตสิกก็ประกอบกับจิตเป็นครั้งคราวไม่แน่นอนจึงชื่อว่า “กทาจิเจตสิก” ถีนะมิทธะเจตสิก ๒ ดวงนี้ ประกอบกับจิตได้เป็นบางครั้งบางคราว แต่ประกอบกับจิตพร้อมกันจึงชื่อว่า “สหกทาจิ” คาถาสังคหะ ยถาวุตฺตานุสาเรน      เสสา นิยตโยคิโน สงฺคหญฺง ปวกฺขามิ      เตสนฺทานิ ยถารหํ ฯ แปลความว่า เจตสิก ๔๑ ดวงที่เหลือจาก ๑๑ ดวง ดังกล่าวแล้วนั้นเป็นเจตสิกที่ประกอบกับจิตได้แน่นอน จึงชื่อว่า “นิยตโยคีเจตสิก” อธิบาย เจตสิกปรมัตถ์มี ๕๒ ดวง เมื่อกล่าวโดยประกอบกับจิตแล้วจําแนกได้เป็น ๒ ประเภท คือ      ๑. อนิยตโ...

แสดงปัญญาเจตสิกที่ประกอบกับจิต

รูปภาพ
ในสัมมาทิฏฐิสูตร แสดงฐานะของปัญญาไว้ ๖ ประการ คือ ๑. กัมมัสสกตาสัมมาทิฏฐิ คือปัญญาที่รู้ว่า สัตว์ทั้งหลายมีกรรม เป็นของตน ๒. ฌานสัมมาทิฏฐิ คือปัญญาที่รู้อุบาย ในการทำใจให้สงบจากนิวรณ์ ตลอดจนปัญญาในอภิญญาจิต ๓. วิปัสสนาสัมมาทิฏฐิ คือปัญญาที่เข้าไปรู้เห็น รูป-นามว่าไม่เที่ยงเป็นทุกข์ เป็นอนัตตา ๔. มรรคสัมมาทิฏฐิ คือปัญญาที่ทำกิจ ในการประหารอนุสัยกิเลส โดยมีพระนิพพาน เป็นอารมณ์ ๕. ผลสัมมาทิฏฐิ คือปัญญาที่เสวยผลจากการที่มรรคญาณได้ทำการประหารอนุสัยกิเลสแล้ว โดยมีพระนิพพานเป็นอารมณ์ เรียกว่า “เสวยวิมุตติสุข” ๖. ปัจจเวกขณสัมมาทิฏฐิ คือปัญญาที่เกิดขึ้นภายหลังมรรคญาณผลญาณสำเร็จแล้ว เพื่อพิจารณาธรร,อย่างใดอย่างหนึ่งใน ๕ ประการคือ :- ๑) กิเลสที่ละแล้ว ๒) กิเลสที่ยังเหลืออยู่ ๓) มรรคจิต ๔) ผลจิต ๕) พระนิพพาน 🔅 สัมปโยคนัย อารัมภบทแห่งสัมปโยคนัย คาถาสังคหะ เตสํ จิตฺตาวิยุตตานํ  ยถาโยคมิโต ปรํ จิตฺตุปฺปาเทสุ ปจฺเจกํ  สมฺปโยโค ปวุจฺจติ ฯ แปลความว่า ต่อไปนี้ จะแสดงการประกอบโดยเฉพาะของเจตสิกธรรมที่มีสภาพเกิดพร้อมกับจิต ขณะที่จิตเกิดขึ้นตามที่จะประกอบได้ อธิบาย ธรรมที่ชื่อว่า “จิตฺตาวิ...

อัญญสมานาเจตสิก ๑๓

รูปภาพ
คำว่า “อัญญสมาน” นี้ เมื่อแยกศัพท์แล้วได้ ๒ ศัพท์ คือ :- อัญญ หมายถึง ธรรมอื่น สมาน หมายถึง เหมือนกัน อัญญสมาน จึงหมายถึง เหมือนธรรมอื่น ธรรมอื่นในที่นี้ หมายถึง เจตสิกธรรม ที่เป็นทั้งโสภณเจตสิกและอกุศลจิต ฉะนั้น อัญญสมานาเจตสิก จึงหมายถึงเจตสิกที่มีสภาพเหมือนธรรมอื่น กล่าวคืออัญญสมานาเจตสิก ย่อมประกอบกับโสภณเจตสิก และอกุศลเจตสิกได้ทั้ง ๒ พวก ส่วนโสภณเจตสิก ซึ่งไม่เหมือนกับอกุศลเจตสิก หรืออกุศลเจตสิกซึ่งไม่เหมือนโสภณเจตสิก ทั้ง ๒ พวกนี้ จึงไม่อาจประกอบกันได้ เหมือนอย่างอัญญสมานาเจตสิก อัญญสมานาเจตสิก ๑๓ แผนผังอัญญสมานาเจตสิก อัญญสมานาเจตสิกนี้ มีอยู่ ๒ นัย คือ 🔆  นัยที่ ๑. สัพพจิตตสาธารณเจตสิก  สัพพจิตสาธารณเจตสิก เมื่อแยกศัพท์ออกแล้วได้ ๓ ศัพท์ คือ สพฺพ + จิตฺต + สาธารณ          สัพฺพ หมายถึง ทั้งหมด          จิตฺต หมายถึง จิต          สาธารณ หมายถึง ทั่วไป สัพพจิตตสาธารณเจตสิก จึงหมายถึง เจตสิกที่ประกอบได้ทั่วไปแก่จิตทั้งหมด เจตสิกประเภทนี้มี ๗ ดวงคือ ๑. ผัสสเจตสิก ผัสสเจตสิก เป็นธรรมชาติท...